เคยมั้ยค่ะ ที่เราอยากอ่านหนังสือภาษาอังกฤษให้ได้อย่างน้อยสัก 1 เล่มในชีวิต มาริก็เคยรู้สึกแบบนั้นและทำสำเร็จแล้วด้วย สารภาพตรงนี้เลยว่าไม่เก่งภาษาอังกฤษสุดๆ แต่ไปเดินร้านหนังสือบ่อยๆและมันน่าซื้อมาก เพราะหนังสือมีหลากหลายหน้าปกก็สวย พล๊อตก็ดี วันนี้อยากมาแชร์การอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษให้ประสบความสำเร็จ
1.มีความตั้งใจที่อยากจะอ่าน
ความมุ่งมั่นตั้งใจเป็นหนทางแห่งความสำเร็จ ไม่ใช่แค่ความมุ่งมั่นอย่างเดียวก็ต้องมีความอดทนควบคู่กันไปด้วย ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองที่ไม่ควรมองข้าม การอ่านอย่างน้อยมันทำให้เราได้เจอกับศัพท์และมันอาจจำอยู่ในหัวเราไม่รู้ตัว ดีกว่าการที่บังคับตัวเองท่องศัพท์เป็นไหนๆ
2.หาหนังสือที่เราชอบและสนใจ
ทุกคนรู้ตัวเองอยู่แล้วว่าเราชอบแนวไหน อยากให้ผู้อ่านเลือกหนังสือที่ตัวเองรู้สึกสนใจจริงๆเพราะถ้าคุณเอาแต่ไปเสิร์ทหาข้องมูลว่าเล่มไหนอ่านง่ายๆแล้วยังไม่อ่านเนื้อเรื่อง พอคุณซื้อมาจริงๆคุณอาจจะไม่ชอบก็ได้ เพราะคนอื่น"แนะนำว่ามันง่าย" แต่สนุกของเขากับของคุณมันแตกต่างกันนะจ๊ะ
3.ใช้เวลาพิจารณาและศึกษาในร้านหนังสือ
จงใช้เวลากับการอยู่ร้านหนังสือ!! หาเวลาว่างๆเข้าไปร้านหนังสือด้วยตัวเองและไปหมวดที่ตัวเองสนใจ ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะอ่านเล่มไหนดีลองไปสะกิดพนักงานให้เขาเข้ามาแนะนำอาจจะทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
วิธีเลือกของมาริคือให้เขาแนะนำหลายๆเรื่องก่อนชอบเล่มไหนค่อยเข้าไปดูคำศัพท์ว่ายากมั้ย แต่ถ้ามันยากแล้วมันน่าอ่านมากๆก็ไม่รอดจ้าซื้อเลย อย่างตัวของมาริเองเล่มแรกที่อ่านคือ Can you keep a secret? ของ Sophie Kinsella เพราะพี่พนักงานแนะนำ เขาบอกว่าถ้าเป็น Women Fiction ใครๆก็อ่านได้ มันเป็นศัพท์ที่ใช้คุยกันในชีวิตประจำวัน และเล่มนี้อ่านดูมันก็ฮ่าจริงๆอะ ใครอยากรู้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรน่าสนใจยังไงลองไปศึกษากันดูนะ
4.เปิดgoogle translate หรือ ดาวน์โหลด dictionary บนมือถือ
บอกเลยง่ายๆว่าไม่รู้ศัพท์ก็หา!! มันจะมีความหงุดหงิดเล็กน้อยเวลาอยู่ในช่วงที่มันกำลังสนุกแต่ดั๊นนนไปเจอประโยคที่ไม่เข้าใจนี่แหละ อรรถรสเสียหมด แต่นั่นแหละดีกว่าอ่านไม่รู้เรื่องละนะ
5.ไม่เข้าใจให้อ่านข้าม
มันจะบางคำในประโยคที่เราไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไร แต่พอเราอ่านจากประโยคก่อนหน้านี้จะรู้ว่ามันหมายถึงอะไร ให้เราอ่านข้ามไปก่อนเพื่อไม่ให้เสียอรรถรสความสนุก พออ่านจบพารากราฟค่อยกลับไปหาคำศัพท์นั้นก็ยังไม่สาย
6.อ่านสม่ำเสมอ
ความขี้เกียจมันมีแน่เวลาอ่านหนังสือที่เข้าใจยากๆ จะบอกว่าถ้าเราได้เจอกับหนังสือที่มันสนุกมากมันถึงกับวางไม่ลงเลยทีเดียว อย่างมาริก็มีความขี้เกียจสูงมากก ยอมรับว่ามันก็จะมีขาดๆหายๆบ้าง แต่ถ้าอ่านเมื่อไหร่มาริจะใช้เวลาอ่านวันละบท หรือขี้เกียจมากๆก็วันละพารากราฟไม่ให้ลืม เพราะมันต้องใช้สมาธิมากเป็น 2 เท่า ถ้าทุกคนสามารถในการอดทนสูง แนะนำให้อ่านวันละบท เพื่อเนื้อหามีความต่อเนื่อง
7.Mission completed
เมื่อคุณอ่านหนังสือจบแล้วบอกเลยว่ามันดีมากๆๆ!! มันเหมือนคุณได้ประสบความสำเร็จอะไรบางอย่างในชีวิต และมีความภูมิใจกับตัวเองมาก มันจะสร้างแรงบรรดาลใจให้คุณอยากอ่านไปเรื่อยๆอย่างแน่นอน
แค่คุณตั้งเป้าหมายอะไรเล็กน้อยๆและทำมันสำเร็จได้ การตั้งเป้าหมายในครั้งต่อไปไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
"Books are the quietest and most constant of friends;
they are the most accessible and wisest of counsellors,
and the most patient of teachers."
Charles William Eliot
"หนังสือเป็นเพื่อนที่เงียบและมั่นคงมากที่สุด
เป็นที่ปรึกษาที่เข้าถึงได้ง่ายและรอบรู้ที่สุด
และเป็นครูที่อดทนที่สุด"
ชาร์ล วิลเลียม อีเลียต (Charles William Eliot) อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
they are the most accessible and wisest of counsellors,
and the most patient of teachers."
Charles William Eliot
"หนังสือเป็นเพื่อนที่เงียบและมั่นคงมากที่สุด
เป็นที่ปรึกษาที่เข้าถึงได้ง่ายและรอบรู้ที่สุด
และเป็นครูที่อดทนที่สุด"
ชาร์ล วิลเลียม อีเลียต (Charles William Eliot) อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ความคิดเห็น
โพสต์ความคิดเห็น